ทางช้างเผือกเป็นสิ่งที่ผมว่ามีเสน่ห์มากๆบนท้องฟ้ายามค่ำคืน และมันก็เติมเต็มภาพถ่ายให้ดูน่าสนใจได้ดีมากๆเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าถ่ายให้ติด Galactic core ซึ่งเป็นส่วนที่สว่างที่สุดของทางช้างเผือกแล้วจะทำให้ภาพดูมีพลังมากๆ แต่หลายคนก็พบว่าเวลาเราถ่ายทางช้างเผือกมา ภาพที่ได้ดูคอนทราสต์ต่ำ ดูไม่ค่อยมีพลังเหมือนกับภาพของช่างภาพดังๆในอินเตอร์เนตเลย
จริงๆแล้วภาพเหล่านั้นก็ถูกการปรับแต่งผ่าน photoshop (หรือ lightroom) มาเยอะพอสมควรครับ ใน blog ตอนนี้ผมจะสรุป workflow ที่ผมใช้ ซึ่งก็ปรับเอามาจากการดู Tutorial videos ของช่างภาพฝรั่งหลายๆคนครับ อาทิเช่นของ Michael Shainblum และ Kenneth Brandon
สำหรับภาพตัวอย่างที่ผมใช้เป็นภาพต้นไม้ที่ Yosemite กับทางช้างเผือกเป็นฉากหลัง ต้นไม้นี้พี่กุ๊งที่ไปด้วยกันช่วยใช้ไฟฉายทำ light painting ให้ครับ สำหรับการตั้งค่ากล้องก็ไม่มีอะไรมาก ใช้รูรับแสงกว้างสุด ผมใช้เลนส์ Nikon AF-D 14mm f/2.8 ก็เปิดสุด 2.8 เลยครับ
เทียบกันระหว่างภาพจาก raw file และภาพหลังแต่งแล้ว สังเกตว่าภาพดิบทางซ้ายมือนั้นแทบไม่มี contrast ที่ทางช้างเผือกเลย
setting ทั่วไปมีดังนี้ครับ
กล้อง Nikon D800, เลนส์ 14mm f/2.8
ISO 3200, f/2.8, 20 sec
ตอนถ่ายก็เลือกสถานที่ที่มืดสนิท ไร้แสงรบกวนจากเมือง (light pollution) แต่อย่างภาพนี้ก็มีแสงจากเมืองอยู่บ้างนิดหน่อยครับ ถ้าฉากหน้ามืด มีสองทางเลือกคือใช้ light painting ซึ่งต้องใช้ทักษะนิดนึง พยายามอย่าฉายไฟตรงๆ ให้ฉายจากด้านข้าง จะได้ดูมีมิติ หรืออีกทางเลือกนึงคือถ่ายเฟรมนึงตั้งแต่ตอนที่ยังมีความสว่างอยู่บ้าง เช่น ช่วง twilight หลังพระอาทิตย์ตกไปแล้ว 30 นาที หรือไม่ก็ถ่ายช่วงที่ยังมีแสงจันทร์อยู่ แล้วนำมารวมกับภาพทางช้างเผือกที่ถ่ายทีหลัง (แต่ไม่ขยับขาตั้งกล้อง)
เรามาดูการปรับ RAW file กันก่อนเลย ผมใช้ camera raw นะครับ ซึ่งเมนูก็คล้ายๆกับ lightroom เลย ลองเทียบกับรูปซ้ายมือของภาพด้านบน (before/after) นะครับ
ในหน้าต่างนี้ผมปรับค่าต่างๆ เน้นสามสี่อย่างครับ
- ดัน contrast และ clarity ขึ้น เพื่อเพิ่มความเด่นของ milky way
- ลด highlight ลง จะช่วยทำให้แสงไฟจากเมืองเด่นน้อยลง หากใครชอบแสงฟุ้งๆจะไม่ดันลงก็ได้ครับ
- ดัน shadow ไปจนเกือบสุด เพื่อเปิดรายละเอียดด้านล่าง ถ้าใครไม่อยากดันสุดก็ได้นะครับ ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ผมดัน black อีกเล็กน้อยครับ
- เพิ่ม white ทำให้ milky way สว่างขึ้น ดัน white ง่ายเพราะแทบทุกส่วนในภาพมืดหมด ยกเว้น milky way
- ผมไม่แตะ vibrance กับ saturation เลย เอาไว้ไปเล่นใน photoshop ดีกว่า
เนื่องจาก shadow ดันจนสุดแล้ว ผมก็ใช้ gradient หนึ่งอัน ลากแค่ส่วนด้านล่าง แลัวดัน shadow ขึ้นอีกด้วยการลด contrast ครับ ได้ผลคล้ายกับการดัน shadow เลย แต่ noise จะน้อยกว่า
สังเกตว่าจากตรงนี้ก็ได้ภาพใกล้เคียงกับภาพ final แล้ว จากนั้นผมก็ save ออกมาเป็น profoto RGB profile ใช้ 8 bit เพราะคอมผมรับ 16bit ไม่ไหว แต่ถ้า export มาเป็น 16bit จะดีกว่าครับ
ใน photoshop ผมทำขั้นตอนประมาณนี้ครับ ผมไม่เน้นว่าต้องปรับอะไรเท่าไหร่ แต่จะกล่าวรวมๆเน้นคอนเซปต์ว่าใช้ tool อะไรบ้างนะครับ
- ใช้ color balance แก้สีม่วงที่อยู่ใน shadow ด้านล่าง แล้ว mask ให้มีผลแค่ด้านล่าง ท้องฟ้ายังคงเดิม
- ใส่ orton เพื่อเพิ่มความฟุ้งให้กับทางช้างเผือก แถมเป็นการเกลี่ย noise ไปด้วยในตัว 555
- เพิ่ม contrast ให้ทางช้างเผือกด้วยการใช้ high pass
- ทาสีส้มลงไปที่ทางช้างเผือก ผมชอบโทนส้มๆอมม่วงครับ
- เพิ่ม contrast ให้ทางช้างเผือกไปอีกด้วย Tonal Contrast (อยู่ใน plugin ของ Niks Collection)
ในแต่ละขั้นตอน จุดสำคัญที่สุดอยู่ที่การใช้ mask เพื่อตัดไม่ให้มีผลทั้งภาพ แต่จะมีผลกับแค่ทางช้างเผือกเท่านั้น ผมจะกล่างถึง orton, high pass และ tonal contrast นะครับ รายละเอียดคร่าวๆดูได้จากด้านล่างนะครับ
เพิ่ม contrast ด้วย high pass
ใน photoshop ผมเพิ่ม contrast ให้ทางช้างเผือกอยู่สองทางครับ อย่างแรกคือการใช้ high pass เลือกจากเมนู Filter –> Others –> High Pass แล้วก็เลือกค่า radius ประมาณ 100 ขึ้นไป ภาพที่ได้จะออกมาเทาๆแบบนี้ แต่จุดสำคัญอยู่ที่เราต้องปรับ blending mode เป็น soft light และเราจะได้ทางช้างเผือกที่เด่นชัดขึ้นมาก แต่อย่าลืมต้อง mask ส่วนที่เหลือออกด้วยนะครับ ไม่งั้นมันจะเพิ่มความเด่นไปทั้งภาพเลย
Before/After ก่อนและหลังทำ High Pass โดย mask ให้มีผลเฉพาะทางช้างเผือก
การใส่ orton
ผมใช้ TK action หรือใครจะใช้วิธีตามในวีดีโอของ Joshua Cripps ก็ได้เช่นกัน
พอใส่แล้วเราก็ทำให้มีผลเฉพาะทางช้างเผือกนะครับ หรือใครอยากให้มีผลทั้งภาพก็ได้เช่นกัน ทางช้างเผือกเราจะออกมาฟุ้งๆชวนฝัน คล้ายๆกับของ Michael Shaiblum ผมชอบสไตล์นี้เลยเอามาใส่ใน workflow ของผมด้วย จะใส่หนักหรือเบาก็เลือกได้ตามใจชอบครับ
ดัน Tonal Contrast
อันนี้เป็นเครื่องมือสำเร็จรูปจาก Nik Software (ปัจจุบันเป็นของกูเกิล) ผมใช้บ่อยมาก แทบทุกภาพเลยครับ เพราะมันทำให้ภาพดูเด่นชัดขึ้น แต่ต้องปรับไม่มากจนเกินไป ปกติผมก็ดันๆออกมาก่อน แล้วค่อยปรับลด opacity ลงทีหลัง หรือ mask เอาเฉพาะส่วนที่ต้องการให้เน้นครับ ต้องลองดูครับ tool นี้มันดีมากๆ
workflow ของผมก็มีประมาณนี้แหละครับ ดูไม่ยากเกินไปใช่ไหมครับ แต่ผมอยากเน้นย้ำว่า การปรับค่าต่างๆนี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่มีค่าตายตัวนะครับ มันขึ้นอยู่กับแต่ละภาพด้วย บางภาพถ้าใช้ค่าเดิมเป๊ะๆ ภาพอาจจะออกมาดูไม่ได้เลยก็เป็นได้ ต้องลองเล่นๆดู และหาจุดพอดีของแต่ละภาพด้วยตนเองครับ
แถม before and after อีกใบ ใบนี้เวลามาดูทีหลัง ผมรู้สึกว่าผมใส่ contrast เยอะไปหน่อย บริเวณตัวคน เดี๋ยวจะหาโอกาสทำไฟล์ใหม่ครับ
มีคำถาม สงสัยอะไรตรงไหน หรืออยากเพิ่มเติมอะไร ก็ทิ้งไว้ใน comment ได้เลยนะครับ ขอให้สนุกกับการทำภาพครับ