วันนี้ผมอยากมารีวิวการท่องเที่ยวอีกแบบนึงที่คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยกัน นั่นก็คือการเช่า camper van ครับ ทริปไอซ์แลนด์ทั้งสองครั้งที่ผมไปมา ผมเลือกวิธีการเช่า camper van ทั้งสองครั้งครับ สำหรับผมซึ่งเน้นการถ่ายภาพแล้ว camper van ให้ความสะดวกสบาย และความยืดหยุ่นในการเดินทางได้มาก เอาเป็นว่า เราลงรายละเอียดกันเลย
Camper Van คืออะไร
ว่ากันง่ายๆ มันก็คือรถตู้หลังคาสูงแบบดัดแปลงนั่นเองครับ มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก นอนได้สองคน หรือขนาดใหญ่ นอนได้ 4-5 คน ส่วนมากจะไม่มีรถที่ใหญ่เกิน 5 คนครับ ตัวรถด้านหน้าในแถวคนขับจะเหมือนกับรถตู้ปกติ แต่ด้านหลังจากนั้นจะดัดแปลงเป็นเตียงสองชั้น ชั้นล่างพับเป็นเบาะนั่งในเวลากลางวันได้ มีครัวเล็กๆให้ใช้ บางคนอาจจะสงสัยว่าต่างจากรถ RV อย่างไร รถ RV หรือที่เรียกกันเล่นๆว่ารถบ้านนั้น จะมีความสะดวกครบครันมากกว่า มีห้องครัว รวมไปถึงมีห้องส้วม และห้องอาบน้ำให้ใช้ด้วย แต่นั่นก็แปลว่ารถ RV นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่ามาก ตัวรถหนักมาก เนื่องจากต้องบรรทุกน้ำ และข้างในก็มีเฟอร์นิเจอร์แบบจัดเต็มเลยครับ ดังนั้นรถ RV จะกินน้ำมันมากๆ เรียกได้ว่าบางคันอาจจะถึง 4-6 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว และรถ RV ยังขับได้ช้ากว่ารถทั่วไปมาก ตัวรถกว้าง หากขับในถนนแคบๆต้องใช้ทักษะสูง ถนนบางเส้นจะจำกัดความยาวของตัวรถไว้เนื่องจากมีความคดเคี้ยวมาก ฉะนั้นถนนบางเส้น รถ RV ขนาดใหญ่มาก เช่น 7-8 คน อาจจะเข้าไม่ถึงครับ
ข้อดีของ camper van ที่ผมชอบมากๆก็คือ จอดนอนที่ไหนก็ได้ จอดชมวิวดูดาว รอแสงเหนือทั้งคืนก็ยังได้ หากได้เลือกวิวสวยๆตอนจอดรถ พอตื่นมาก็จะเห็นวิวงามๆตอนเช้า ประทับใจสุดๆครับ นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางที่ประหยัดด้วย เพราะไม่ต้องเสียค่าโรงแรมเลย ค่าเช่ารถอาจจะสูงกว่ารถ 4 ที่นั่งเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการที่ไม่ต้องจ่ายค่าโรงแรมแล้ว ตัวเลือก camper van นั้นถูกกว่ามากครับ
และที่เด็ดที่สุดก็คือ camper van มีความยืดหยุ่นในการเดินทางมาก หากผมเลือกที่จะจัดทริปแบบปกติ เลือกจองโรงแรมที่พักแบบตายตัวในแต่ละวัน หากวันใดที่อากาศไม่ดี ผมก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ แต่ตอนที่ผมไปไอซ์แลนด์นั้น การที่ผมใช้ camper van ทำให้ผมสนุกกับการวางแผนสดๆในแต่ละวัน คิดตลอดว่าเราจะไปไหนกันดี เลี่ยงอากาศแย่ๆ หาบริเวณที่ฟ้าเปิดเพื่อรอแสงเหนือออกมาร่ายรำในตอนกลางคืน ในมุมมองของช่างภาพธรรมชาติแล้ว นี่เป็นตัวเลือกที่เยี่ยมยอดมากครับ
ข้อเสียคงมีเรื่องเดียวคือ camper van ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีห้องอาบน้ำ ฉะนั้นก็ต้องพึ่งห้องน้ำปั้มน้ำมัน ส่วนการอาบน้ำนั้น ประเทศไอซ์แลนด์มีสระว่ายน้ำอยู่ทุกเมือง คนที่นี่ชอบแช่น้ำร้อนครับ ไม่ว่าจะเมืองเล็กแค่ไหนก็จะมีสระว่ายน้ำเกือบทุกเมือง ค่าใช้จ่ายคนละ 200-500 โครนาต่อคน (200 โครนา ประมาณ 60 บาท) ขึ้นอยู่กับว่าจะอาบน้ำอย่างเดียว หรือจะแช่น้ำร้อนด้วย แต่ต้องเช็คเวลาเปิดปิดดีๆนะครับ เมืองเล็กๆอาจจะปิดเร็ว
ใน blog นี้ผมอยากจะเปรียบเทียบ camper van สองเจ้าที่ผมเคยเช่ามา และมีประสบการณ์ตรงนะครับ คือ Kuku Camper และ Happy Camper ผมเช่า Kuku ตอนไปทริป 11 วันในช่วงปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ส่วน Happy Camper นี่เพิ่งเช่ามาสดๆร้อนๆตอนต้นเดือนเมษาที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งเจ้านึงแย่มากกกกก อีกเจ้าดีมาก ผมทำเป็นตารางเปรียบเทียบกันเลย
**มี bias ส่วนตัวสูงมากครับ 5555 ข้อมูลของผมไม่ได้อัพเดตล่าสุดนะครับ ข้อมูลด้านล่างมาจากทริปปี 2013-2014
สเปก |
Happy Camper |
Kuku Camper |
Website |
||
ราคา (รถขนาด 4-5 คน) |
168 euro ต่อวัน (ช่วงเดือนเมษายน) |
159 euro ต่อวัน (ช่วงเดือนตุลาคม) |
รุ่น |
Renault Traffic สามารถนอนได้ 4 คน อาจจะนอนได้ 5 คนหากตัวไม่ใหญ่มาก |
ในเวบบอกว่าใช้ Ford Transit แต่ผมได้รถ Iveco ขนาดใหญ่กว่า Renault พอสมควร สามารถนอนได้ 5 คน |
เกียร์ |
มีแต่เกียร์กระปุกอย่างเดียว |
มีทั้งเกียร์กระปุกและออโต้ |
เครื่องยนต์ |
ไม่กินน้ำมัน ขับขึ้นเขาได้แรงไม่ตก |
กินน้ำมันมาก เต็มถังขับได้น้อยกว่า 400km เครื่องเก่า แบตเสื่อม น้ำมันเครื่องเก่ามาก และไม่ค่อยมีแรงเวลาขับขึ้นเนินเขา |
ระบบอากาศ |
มีทั้งแอร์และ heater (เครื่องทำความร้อน) |
รถที่เช่า 2 ใน 3 คันที่ผมเช่า ระบบทำความร้อนเสีย ต้องนอนท่ามกลางความหนาว เจ้าของปฏิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่า setting ของ heater ยังไม่พร้อมสำหรับหน้าหนาว แต่คนไทยอีกกลุ่มไปมาก็ดูเหมือน heater จะใช้การได้ดี ยังไงก็ลองเชค heater ตอนรับรถให้ดีก่อนครับ |
ยางรถยนต์ |
ทางบริษัทเปลี่ยนยางให้เหมาะกับสภาพถนนตลอดเวลา กฏหมายที่ไอซ์แลนด์บังคับให้ใช้ winter tire ในหน้าหนาว และ summer tire ในหน้าร้อน |
คันหนึ่งที่ผมเช่า ดอกยางหลุดไปเยอะแล้ว แถมยังเป็น summer tire ทั้งๆที่ผมเช่าในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นหน้าหนาวแล้ว และทำให้คันนั้นเกิดอุบัติเหตุ รถไถลตกข้างทางเพราะไม่สามารถควบคุมตัวรถได้ตอนที่หิมะตก หลังจากอุบัติเหตุนั้น ทาง kuku ก็ยินดีออกค่าใช้จ่ายเปลี่ยนยางให้ ซึ่งก็เสียเวลาไปหนึ่งวันกับการกู้รถ และเดินเรื่องอื่นๆ |
ครัว |
ใช้เตาแก๊สแบบเตาร้านหมูกะทะ ยกเคลื่อนย้ายได้ ใช้แก๊สกระป๋องแบบบิวเทน ค่อนข้างหาซื้อยาก ให้กะปริมาณแก๊สที่ต้องใช้และซื้อกับทางบริษัทไว้ก่อน ถังน้ำใช้ 20 ลิตร สามารถถอดออกเพื่อไปเติมน้ำได้สะดวก มีตู้เย็น ปรับอุณหภูมิให้เย็น แช่แข็งได้ (แช่เบียร์วุ้นได้) ระบบไฟของตู้เย็นจะใช้จากแบตเตอรี่แยกอีกตัวนึง ชาร์จตอนรถวิ่ง ทำให้ใช้ตู้เย็นได้ 24 ชม ฉะนั้นหมดห่วงว่าแบตตัวหลักของรถจะหมดเพราะตู้เย็นดึงกำลังไฟไปตลอด |
ใช้ถังแก๊สปิคนิคขนาดเล็ก สามารถซื้อเปลี่ยนที่ปั้มน้ำมันได้ เตาไม่สามาถย้ายที่ได้ ถังน้ำ 20 ลิตร แต่ถอดออกไม่ได้ ต้องหาสายยางหรือภาชนะอื่นมาเติมน้ำ มีเพียงกระติกแช่เย็นไว้เก็บของ ต้องซื้อน้ำแข็งมา หากต้องการเก็บเนื้อสัตว์ และผักสด (มีน้องคนไทยไปช่วงเดือนมีนาที่ผ่านมา ได้เป็น cooler ที่ทำความเย็นได้ แต่ไฟติดเฉพาะตอนขับรถเท่านั้น) |
เตียง |
เบาะพับได้ มีกลไกให้เก็บง่าย สะอาด และเป็นเบาะกำมะหยี่ นุ่มสบาย |
เบาะยาวเหมือนรถสองแถว พับเก็บยาก ใช้เวลานานในการกางเตียง ส่วนเตียงด้านบนพับเก็บไม่ได้ |
บริการ |
ดีมาก มีความเป็นมืออาชีพ เจ้าของดีมากๆ และลูกน้องก็ดูแลดีมาก มารับถึงสนามบิน มีการแนะนำรถ และทำความเข้าใจระบบต่างในรถ ก่อนรับรถ เมื่อรถมีปัญหาสามารถโทรหาได้ 24 ชั่วโมง |
บริการแบบขอไปที ไม่ค่อยดูแลลูกค้า ไม่เอาใจใส่ เวลามีปัญหาก็โทรติดยากมาก (เป็นความเห็นส่วนตัวมากๆครับ) วันที่เพื่อนผมมารับรถ เขาไม่เชคแม้แต่ใบขับขี่สากล ไม่มีการตรวจสภาพรถก่อนว่ามีตรงไหนบกพร่องหรือไม่ ไม่มีการแนะนำการใช้งานอะไรเลย ยื่นกุญแจให้ขับอย่างเดียว ผมต้องโทรไปถามในภายหลังว่าเปิดใช้เครื่องทำความร้อนยังไง ซึ่งก็เปิดไม่ติดอยู่ดี 55 |
มาถึงตรงนี้ คงไม่ต้องสาวความกันให้ยาวนะครับ ว่าผมจะแนะนำให้คุณเช่าบริษัทอะไร 555
เลี่ยง kuku camper ได้ เลี่ยงเถอะครับ ผมรู้จักรุ่นน้องคนไทยอีกกลุ่มที่เช่า kuku แล้วก็มีปัญหาเหมือนกัน เสียเวลาไปราวๆหนึ่งวัน
ภาพประกอบครับ
รถ Happy 3 ของบริษัท Happy Camper ขอบคุณรูปจากพี่กัญจน์ครับ
เบาะตัวนี้พับเป็นเตียงได้ กลไกสะดวกมาก กางเสร็จใน 3 วินาที
ในภาพเป็นเตียงสองชั้นครับ
มาดูรถ Kuku Category C ของ Kuku Camper บ้างครับ (ขอบคุณภาพถ่ายจากพี่ทีครับ เลนส์ตาปลา ดูกว้างเป็นพิเศษ)
รถคันนี้จะกว้างกว่า นอนได้ห้าคน ลักษณะเบาะหลังเหมือนสองแถว มีโต๊ะตรงกลาง แต่เวลากางเตียงจะเสียเวลาหน่อยครับ
ภาพมุมสูงจากเตียงบน
แม้ผมจะเคยเช่า camper van เที่ยวเฉพาะหน้าหนาว ผมยังเคยคิดจินตนาการอยู่เลยว่า ไอซ์แลนด์ในหน้าร้อนยิ่งเหมาะสำหรับ camper van เข้าไปใหญ่ เพราะในหน้าร้อน ไอซ์แลนด์จะมีช่วงเวลากลางวันเกือบๆ 22 ชั่วโมง และช่วงเวลาที่แสงจะสวยที่สุดคือช่วงเวลาพระอาทิตย์ใกล้ตก และใกล้พระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งก็จะอยู่ช่วงเวลาราวๆเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งทั้งคู่ (นั่นคือพระอาทิตย์แทบไม่ตกเลย เลยกลางคืนไม่มืดเลย) ฉะนั้นหากมี camper van ก็สามารถนอนในเวลากลางวัน (ซึ่งแสงไม่สวย) และเที่ยวถ่ายภาพในเวลากลางคืน (ซึ่งเป็นเวลาที่แสง prime time มากๆ) ช่างภาพบางคนเรียกไอซ์แลนด์ในหน้าร้อนว่าเป็น forever light เพราะว่ามีแสงให้ถ่ายภาพได้ตลอดเวลาครับ
เพิ่มเติม
หากท่านใดสนใจเช่า RV แทน ลองดูเวบไซท์ด้านล่างเป็นตัวเลือกได้ครับ มีคนไทยที่รู้จักกันเคยเช่ามาแล้ว ก็ดูราบรื่นดี แต่อาจจะไม่มีให้เช่าในช่วงหน้าหนาว
You must be logged in to post a comment.