เราอาจจะคิดว่า แสงเหนือ ต้องไปเห็นที่ประเทศแถบขั้วโลก เช่น ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ แต่หลายๆครั้ง ผมเองก็เห็นแสงเหนือจากบนเครื่องบิน เพราะเครื่องบินโฉบผ่านแถวนั้นพอดี โดยที่เราไม่ต้องลงทุนบินไปไอซ์แลนด์เลย ผมมี 8 ขั้นตอนง่ายๆที่จะเตรียมดูว่า เรามีโอกาสเห็นแสงเหนือบนเครื่องมั้ย
1) จองที่นั่งริมหน้าต่างไว้ก่อนเลย โดยให้หน้าต่างเราหันไปทางทิศเหนือเป็นหลัก ถ้าเกิดบินจากตะวันตกไปตะวันออก ก็ให้นั่งฝั่งซ้าย เช่น ไฟลท์จากโตเกียวไปยังนิวยอร์ค โตรอนโตไปมอสโค หรือจากเฮลซิงกิไปโตเกียว แต่ถ้ากลับทางกันก็ให้นั่งฝั่งขวาครับ จองไว้ก่อน เดี๋ยวที่นั่งติดหน้าต่างดีๆจะเต็ม
2) เลี่ยงบริเวณปีก เพราะแสงไฟรบกวนเยอะ แต่บางครั้ง ถ้าแสงเหนือแรงมากๆก็ไม่เป็นปัญหา แสงเหนือแรงสุดๆ สู้แสงจันทร์และปีกเครื่องบินได้ ผมก็เคยถ่ายมาแล้ว ถ้าค่อนไปทางท้ายเครื่องจะดีหน่อยเพราะได้ปีกเครื่องบินอยู่ในองค์ประกอบภาพ และส่วนมากตัวไฟจะอยู่ตรงหัวปีก แต่บางลำก็มีไฟที่ปลายปีกด้วย
3) ศึกษาเส้นทางบิน ดูได้จากเวบ flightaware ต้องดูว่าเส้นทางบินนั้นอยู่เหนือพอที่จะเห็นแสงเหนือหรือไม่ แต่บางครั้งไม่จำเป็นต้องอยู่เหนือมากถึงกับใกล้ขั้วโลก บางครั้งถ้าแสงเหนือแรงๆก็สามารถเห็นได้ต่ำถึงตอนใต้ของประเทศแคนาดาเช่นกัน (ละติจูดของแคนาดาตอนใต้ประมาณ 50 องศา ส่วนไอซ์แลนด์อยู่ละติจูดประมาณ 65 องศา) ที่เป็นเช่นนี้เพราะแนวของแสงเหนือจะเป็นวงรี กวาดกินทางใต้ทางฝั่งอเมริกามากกว่าทางฝั่งยุโรป ถ้าอยู่ทางยุโรปต้องขึ้นไปใกล้ขั้วโลกมากกว่าฝั่งอเมริกาครับ ฉะนั้นถ้าเป็นไฟลท์ที่บินจากญี่ปุ่นมายังฝั่งตะวันออกของอเมริกา ย่อมผ่านชัยภูมิที่น่าลุ้นทีเดียว ส่วนไฟลท์จากไทยจะยากหน่อย เพราะประเทศไทยอยู่ทางเส้นศูนย์สูตร เส้นทางยุโรปก็ไม่ได้วกขึ้นไปทางขั้วโลกเหนือมากนัก เมื่อก่อนมีเส้นทางกรุงเทพ-นิวยอร์กที่เป็น polar route ตอนนี้ก็คงได้แต่รอลุ้นให้การบินไทยเปิดเส้นทางนี้อีกครั้ง
4) ช่วงเวลาบิน ต้องมีเวลากลางคืน ซึ่งก็ต้องเลี่ยงช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม เพราะใกล้ขั้วโลกมีแสงอาทิตย์แทบจะ 24 ชั่วโมงเลย
5) เปิดดูพยากรณ์แสงเหนือก่อนบิน โดยมากผมจะเปิดดู solarham ดู Kp forecast ของวันนั้น ถ้ามีก็เตรียมลุ้น แต่ถ้า Kp ต่ำกว่า 2 ล่ะก็ เตรียมหลับยาววววว 55555555
6) ถ้าทุกอย่าง perfect เราก็จะเห็นแสงเหนือร่ายระบำอยู่ท้องฟ้าอย่างมีความสุขครับ ฟินแน่นอนๆๆ แต่ถ้าจะถ่ายรูปล่ะก็ มันคือความท้าทายดีๆนี่เอง 555 ปกติเวลาเราถ่ายแสงเหนือบนพื้นราบ ใช้ขาตั้งกล้อง แต่ถ้าเรานั่งอยู่บนที่นั่ง economy แคบๆ มีช่องระหว่างขาแค่ไม่ถึง 30 cm เราจะตั้งขาตั้งกล้องได้อย่างไร ไหนจะมีผู้โดยสารข้างๆอีก ส่วนมากผมใช้มือถือเอาเลยครับ
7) เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ที่ให้เตรียมไม่ใช่เพราะบนเครื่องมันหนาวนะครับ แต่เพราะแสงไฟในตัวเคบินนี่เป็นอะไรที่น่าปวดหัวมากๆ แม้ว่าในเคบินจะปิดไฟหมด แต่มันก็ไม่มืดสนิท บางทีก็มีไฟอ่านหนังสือของที่นั่งใกล้ๆ ไฟจากจอทีวีหน้าที่นั่ง หรือแม้แต่ไฟรัดเข็มขัดก็กวนเข้ามาในภาพได้หมด วิธีที่ผมใช้คือ เอาผ้าพวกนี้ช่วยบังแสง โดยคลุมหมดทุกด้าน คลุมรอบเลนส์ และให้ผ้าคลุมแนบกระจกหน้าต่างแบบแนบสนิททั้งหมด ไม่มีช่องเปิดเลย เท่านี้ก็จะไม่มีเงาสะท้อนแล้ว ถ้ามากันสองคน คนนึงถือกล้อง อีกคนช่วยจับผ้าก็ได้ครับ
8) ดัน ISO ไปสูงๆ ผมใช้ 6400 ขึ้นไป (แต่ถ้าแสงเหนือแรงก็ใช้สัก ISO 3200 ก็ได้) เปิด f กว้างสุด ถ้ามี 2.8 ยิ่งสบาย ขอให้ได้สปีดสัก 1-2 วินาที พอเอากล้องแนบกระจก แนบไว้แน่นหน่อย โอกาสสั่นก็น้อยลงครับ พยายามทำตัวสบายๆ อย่างเกร็ง ไม่ต้องกลั้นหายใจเพราะจะทำให้เกร็ง จากนั้นก็กดต่อเนื่องมาหลายๆใบ แล้วเลือกเอาใบที่สั่นน้อยที่สุด ผมเคยเปิดนานสุด 5 วินาที ตอนนั้นลุ้นมากว่าจะชัดไหม
ใครมีแพลนบินช่วงปลายปีนี้ ขอให้โชคดีครับ
พี & เน
ข้อมูลทั้งหมดนี้ผมเขียนเฉพาะเส้นทางบินที่เฉียดทางขั้วโลกเหนือนะครับ ไฟลท์ที่ผ่านทางขั้วโลกใต้แทบไม่มีอยู่แล้ว อย่าง LAN มีไฟลท์จาก Santiago ไป Auckland ซึ่งก็ถือว่าใต้ที่สุด แต่ก็ยังไม่เฉียดไปทาง Antarctic Circle แม้แต่น้อยเลย
You must be logged in to post a comment.