สวัสดีครับ
หายหน้าหายตาไม่ได้เขียน blog ไปนาน รอบนี้มาแชร์ประสบการณ์นั่งชั้นหนึ่งหรือ First Class การบินไทยครั้งแรกครับ แม้ว่าไม่ใช่ที่นั่ง First Class ที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ แต่การบริการจากพี่ๆ flight attendant นั้นประทับใจที่สุดครับ ดีกว่า Asiana First Class ที่เคยนั่งก่อนหน้านี้หลายขุมเลย อาหารก็ดีสมกับออกจากครัวการบินไทยที่สุวรรณภูมิ
ออกตัวก่อนเลยว่ารอบนี้ไปเกือบฟรีครับ แลกไมล์ล้วนๆ จ่ายภาษีนิดหน่อยประมาณคนละ 1700 บาท
เส้นทางบิน กรุงเทพ (BKK) – ซิดนีย์ (SYD)
เที่ยวบิน TG 475
Aircraft Boeing 747 All Series Passenger HS-TGB (ลำนี้อายุ 18 ปีแล้ว เปลี่ยนเป็น First Class รุ่นใหม่เดือนเมษายน 2013)
ผมแลกไมล์จาก United ช่วงปลายเดือนกันยายน ใช้ 40,000 ไมล์สำหรับตั๋วขาเดียว ก่อนที่จะมีการปรับเรตใหม่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 ซึ่งแลกไปสองคน 80,000 ไมล์ จ่ายภาษีสนามบินอีกสองคนรวมกัน 103 USD ก็ประมาณ 3,400 บาทครับ ถือว่าคุ้มมากๆสำหรับ first class ในราคา 40,000 ไมล์ + 1,700 บาทต่อคน ถ้าแลกเส้นทางนี้ในอัตราปัจจุบันของ United จะอยู่ที่ 65,000 ไมล์ขาเดียวครับ ซึ่งก็ถือว่าถูกอยู่ดี เทียบกับการแลกจากการบินไทยที่ต้องจ่ายถึง 90,000 ไมล์ขาเดียวครับ (อัตราใหม่ 1 ตุลาคม 2562) ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม ซึ่งของการบินไทยเสียแพงกว่า
ผมใช้ไมล์จาก United เพราะสามารถแลกจากบัตรเครดิตของธนาคาร Chase ที่อเมริกาได้ครับ ซึ่งบัตรเครดิตที่อเมริกานั้นมีโปรโมชั่นให้แต้มเยอะๆเวลาเปิดบัตร ส่วนมากจะอยู่ที่ 40,000-80,000 แต้ม เคยได้มากสุด 100,000 แต้มก็มีครับ ดังนั้น 40,000 ไมล์ ซึ่งก็ใช้ 40,000 แต้มจาก Chase Ultimate Rewards นั้นก็ไม่ได้ยากอะไรเลย
ส่วนเที่ยวบินจาก Sydney ไป Queenstown นั้นได้แค่ ecomony เพราะ Air New Zealand ไม่ยอมปล่อยตั๋วแลกไมล์ชั้น business มาให้ครับ 555
ความประทับใจของ First class เริ่มตั้งแต่การเชคอินที่สนามบินสุวรรณภูมิเลยครับ มีห้องแยกออกไปต่างหาก นั่งที่โซฟา ดื่มน้ำเย็นๆ และพนักงานของการบินไทยจะจัดการทุกอย่างให้ครับ รวมไปถึงมีพนักงานพาเดินผ่าน x-ray และ ตม. และนั่งรถกอล์ฟไปยังเลาจน์อีกด้วย ที่เลาจน์โล่งมากทีเดียวครับ ผิดกับ Royal Silk lounge แบบคนละเรื่องเลย ที่ Royal First lounge พนักงานทุกคนเอาใจใส่มากๆ คุกเข่าคุยกับผู้โดยสารตลอด มีบริการนวดฟรี 1 ชั่วโมง และพาเดินไปส่งที่ Gate อีกด้วย พอดีเกตของผมไกลหน่อย เลยได้นั่งรถกอล์ฟไปอีกรอบนึง
ทางเข้า บริเวณเชคอิน
First Class Lounge ของการบินไทย
บนเครื่อง 747-400 ของการบินไทย ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการอยู่ทั้งหมด 8 ลำ จากข้อมูลล่าสุดใน planespotters มี First class อยู่สองแบบครับ ตัวแบบเก่าเหมือนเป็น pod ซึ่งใช้มานานมาก มี 10 ที่นั่ง มีให้บริการอยู่ 3 ลำคือเครื่อง HS-TGO, HS-TGW, และ HS-TGX ส่วนมากเครื่องรุ่นนี้จะบินในประเทศ และสลับไปบินบางเส้นทาง เช่น ญี่ปุ่น จีน อินเดีย และที่นั่งแบบใหม่เป็นแบบ Suite เหมือนมีห้องส่วนตัว แต่ไม่มีประตู มี 9 ที่นั่ง เครื่องที่มีที่นั่งรุ่นนี้จะมีอยู่ 5 ลำ (ปี 2017 มี 6 ลำ เพิ่ง retired ไปหนึ่งลำเมื่อต้นปี 2018) และการบินไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่อง aircraft swap ตอนจองเราได้ที่นั่งแบบใหม่ แต่พอบินจริง อาจจะเอาเครื่องแบบเก่ามาบินก็ได้ ไม่มีทางรู้จนกว่าจะถึงหน้า gate ครับ ฝรั่งชอบเรียกว่าเป็น TG’ed สำหรับเที่ยวบิน TG475 นั้นส่วนมากจะได้ที่นั่งรุ่นใหม่ แต่ก็ไม่เสมอไปครับ ผมเชค history ใน flightradar24 ก็พบว่ายังมีบางวันที่เป็นเครื่องที่นั่งรุ่นเก่า อย่างเช่น ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ราวๆ 90 วัน จะมี 10 วันที่ได้เครื่องรุ่นเก่าครับ แต่ถ้าเป็นเที่ยวบิน TG471 นั้นโอกาสได้ที่นั่งรุ่นเก่าจะบ่อยกว่าครับ
ตรงนี้อาจจะพอเดาได้ ถ้าเชคว่าตอนที่เราเชคอินนั้น (ประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนบิน) ดูว่า 3 ลำที่เป็นแบบเก่านั้นบินออกไปที่อื่นหรือเปล่า ผมเชคด้วย flightradar24 ครับ กรอกเลขของเครื่องบินได้เลย ถ้าทั้งสามลำไม่อยู่ในกทม. ก็พออุ่นใจได้เลยครับว่าเราได้ที่นั่งแบบใหม่แน่นอน
มาถึงบนเครื่อง ที่นั่ง First Class ของการบินไทยนั้นอยู่ชั้นล่าง ตรงส่วนหัวเครื่อง นับเป็น First Class ไม่กี่แบบในโลกที่อยู่ตรงหัวเครื่องจริงๆ อย่างของ Airbus A380 ก็มักจะมีห้องน้ำอยู่ด้านหน้าอีกที และไม่ได้อยู่ตรงปลายแหลมสุดๆเพราะตรงนั้นเป็นห้องนักบิน สำหรับที่นั่งของเราสองคน เนนั่งที่ 1A ส่วนผมนั่ง 2A ครับ เลือกมาตามรีวิวเลย ส่วนมากฝรั่งจะชอบนั่ง 1A กับ 1K แต่ผมคิดว่ามันห่างกันเกินไปสำหรับคนที่มาด้วยกัน ส่วนที่นั่งคู่ตรงกลาง 3E และ 3F นั้นจะแคบกว่าที่นั่งริมหน้าต่างครับ ถ้าเทียบระหว่าง 1A และ 2A นั้น ตัว 1A จะแคบกว่าเล็กน้อย เก้าอี้กว้างเท่ากัน แต่บริเวณด้านข้างแคบกว่า เนื่องจากอยู่ตรงหัวเครื่อง
มีชุดนอนและ Amenity Kit มาให้ครับ
แค่เมนูก็มีระดับแล้ว
เมื่อเครื่องไต่ระดับ ก็เริ่มเทศกาลกินดื่มครับ 555 แชมเปญและไวน์จัดเต็ม ผมสั่งอาหารล่วงหน้าเป็นสเต็ก ส่วนเนสั่ง Lobster Thermidor ซึ่งผมว่า Lobster ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เลี่ยนครึมมากไปนิด ส่วนสเต็กพอโอเคครับ แม้จะสู้ร้านสเต็กดีๆในกรุงเทพไม่ได้ แต่ถือว่าบนเครื่องได้ขนาดนี้ผมก็ happy ครับ
เนรับ Dom perignon ทานคู่กับเห็ดภูฏาน ส่วนผมขอน้ำเปล่าครับ 55
น้ำมะนาวอัญชัน มาแบบเป็นเกล็ดน้ำแข็ง signature ของการบินไทยล่ะครับ
ต่อด้วยคาเวียร์ จัดเต็มมมมม
ตรงที่วางเท้า ottoman สามารถให้อีกคนมานั่งได้สบายๆ เราก็เลยจัดแจงให้ตรงนี้กลายเป็น dining table ของเราสองคนบนความสูง 11,000 เมตรไปโดยปริยาย
พี่ๆ flight attendant ก็เริ่มเทศกาลขายของครับ น่ารักมากๆ เชียร์ให้กินทุกอย่าง ตั้งแต่สเต็กทุกแบบ main course อื่นๆที่มีในตัวเลือก ก็เข็นมาให้ลองชิมทั้งหมด จนโต๊ะไม่มีที่วางแล้ว ต้องค่อยๆเคลียร์ออกไปทีละอย่าง แถมตอนจบยังเชียร์ด้วยว่าขนมหวานอร่อยนะ แม้ว่าผมจะอิ่มไปตั้งแต่ appetizer แล้วก็ตาม 555 อาหารทุกจาน จัดมาได้สวยงามน่าทานมากๆครับ
Cheese และผลไม้
หน้าตาของหวาน แต่ ณ จุดนั้นผมกินแทบไม่ไหวแล้ว 555
แน่นอนว่าที่นั่ง first class แบบ suite บน Boeing 747 นี้สามารถกางราบเป็นเตียงนอนได้ เหมือนกับใน Airbus 380 เลย ภาพมืดสักหน่อยนะครับ เพราะในเคบินปิดไฟหมด เนื่องจากผู้โดยสารท่านอื่นๆพักผ่อนแล้ว มีสองคนนี้ enjoy กับการกินกันนานเป็นพิเศษ 555
นอนไปสัก 4 ชั่วโมงกว่าๆก็เริ่มตื่นมากินต่อครับ เริ่มต้นด้วยมื้อเช้าแบบไม่ค่อยเบาเท่าไหร่ ดูรูปด้านล่างเลยครับ
สำหรับมื้อเช้า เราก็เลือกเมนูเด็ดคือข้าวต้มนพเก้า และอาหารเช้าแบบฝรั่งครับ ซึ่งข้าวต้มนี่ดีงามมากๆ กินข้าวเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้นพอดี เราทานกันสองคนตรงที่นั่ง 2A ของผมเหมือนเดิม
อาหารเช้าพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทวีปออสเตรเลีย
ตอนนี้ถ้าใครมีไมล์ United สัก 65,000 ไมล์ แนะนำให้แลกเส้นทาง SYD-BKK-NRT เลยครับ (หรือกลับทางก็ได้) ใช้ 65,000 เท่ากับ SYD-BKK หรือ BKK-NRT และคุณจะได้บิน first class 2 เที่ยวบิน บนเครื่องบินสองแบบคือ Boeing 747-400 และ Airbus 380-800 และได้กระเป๋า rimowa สองใบครับ 555
ถ่ายภาพเคบินก่อนลงครับ
อำลา Boeing 747 ก่อนไปต่อเครื่องภายในสนามบินซิดนีย์
การวางแผนเก็บไมล์ระยะยาวดีๆ การได้บิน First Class ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแน่นอนครับ ติดตามรีวิวสายการบินได้อีกเร็วๆนี้ เมื่อผมเก็บไมล์ได้ถึงนะครับ 55 ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
ติดตามรีวิวสายการบินอื่นๆ